เกมออกใหม่ไม่เกิน2เดือน ดูเกมทั้งหมดได้ที่เวบบอร์ด

เกมแนะนำที่ไม่ควรพลาด ดูเกมทั้งหมดได้ที่เวบบอร์ด

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2550

กระบี่เย้ยยุทธจักร(1)


กระบี่เย้ยยุทธจักร (1)

ความเดิมกระบี่เย้ยยุทธจักร-เดชคำภีร์เทวดา แต่งโดย กิมย้ง ได้รับการแปลหลายครั้ง และทำเป็นหนังหลายเรื่อง บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ผู้น้อยโคมแดง จะนำมาดัดแปลงเพื่อความสุขของทุกท่าน



สำนักหัวซานมีพี่ใหญ่ เล่งฮู้ชง ที่เป็นคนใจกว้างและไม่ชอบอยู่ใต้อาณัติใคร ระหว่างที่เหล็งฮู้ชงต้องฝึกตนบนผาสำนึกผิด เนื่องจากถูกเจ้าสำนักงักปุกคุ้งลงโทษเพราะเล่งฮู้ชงชักชวนศิษย์ร่วมสำนัก ไปเที่ยวสำนักนางโลม จนศิษย์พี่ศิษย์น้องติดหนองในมาจากสำนักนางโลม ไม่เป็นอันฝึกวิชา ระว่างที่อยู่ผาสำนึกตนวันหนึ่งเล่งฮู้ชงได้ชักว่าวระบายความอัดอั้นอยู่ นั้น น้ำรักของเล่งฮู้ชงกระเด็นไปถูกผนังถ้ำ เล่งฮู้ชงก็พบรอยจารึกวิชากระบี่ที่สูญหายไปนานปรากฏอยู่บนผนังถ้ำ คราแรก เหล็งฮู้ชงปฏิเสธที่จะศึกษาแนวทางวิทยายุทธ์ดังกล่าว เนื่องด้วยเห็นว่าเป็นแนวทางของฝ่ายมาร ซึ่งธรรมเนียมของยุทธจักรนั้น แนวทางทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้ ต่อมาเมื่อเขาพบกับ อาวุโสฝ่ายกระบี่ฟงชิงหยาง ได้ถ่ายทอดเพลงกระบี่ “เก้ากระบี่เดียวดาย” อันเป็นเคล็ดวิชาที่เริ่มต้นด้วยการให้ลืมธรรมเนียมและท่วงท่าต่างๆ ของการฝึกกระบี่ที่ผ่านมาให้หมด ซึ่งขัดกับธรรมเนียมของการฝึกกระบี่ที่เน้นการวางท่าทางก่อน เมื่อเก้ากระบี่เดียวดายไม่มีท่ากระบี่ ดังนั้นเคล็ดวิชานี้คือเน้นที่การหาจุดอ่อนของเพลงกระบี่คู่ต่อสู้ ก่อนการตีโต้กลับออกไป การฝึกกระบี่ดังกล่าวเข้ากับอุปนิสัยของเหล็งฮู้ชงที่ไม่ยึดติดกับ ธรรมเนียมดังกล่าว ภายหลังการฝึกวิชานี้ทำให้เขามองดูภาพสลักในถ้ำด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม โดยมุ่งมองที่เพลงกระบี่มากกว่าการแบ่งฝ่ายพรรคธรรมะ หรือพรรคมาร แต่การฝึกวิชาธรรมมะกับวิชามารร่วมกันมีอุปสรรค คือระหว่างฝึกต้องหาสตรีมาร่วมรักด้วยทุกวัน เพื่อระบายพลังมารออกมา เพื่อฝึกปรือพลังยุทธให้สำเร็จ เล่งฮู้ชงจึงวางแผนให้ศิษย์น้องลูกสาวเจ้าสำนักมาหาในถ้ำบนภูเขาเพื่อจะใช้ นางฝึกวิชายุทธ



ระหว่างที่พักกลางวันศิษย์น้องงักเล่งซานมาหา เล่งฮู้ชงเสแสร้งเป็นธาตุไฟเข้าแทรกนอนกุมท้องอยู่ “พี่เล่ง ฮู้ ท่านเป็นไรไปหรือ” “โอน้องเล่งซาน ข้าถูกธาตุไฟเข้าแทรก ใกล้จะตายแล้ว” “พี่เล่งฮู้ ข้าจะช่วยท่านได้อย่างไร ข้าจะไปตามคนมาช่วยท่านนะ” “น้อง ซานเจ้าไปตามคนมาไม่ทันการแล้ว บัดนี้ธาตุไฟกระจายไปทั่วร่างข้า ข้าได้บังคับมันมาอยู่รวมกันตรงท้องน้อย เจ้ามาช่วยนวดตรงท้องน้อยข้าเร็ว” งักเล่งซาน ได้ยินดังนั้นตรงเข้าไปเอามือบีบนวดท้องน้อยของเล่งฮู้ชง ขณะนั้นสายรัดเอวของเล่งฮู้ชงก็หลุดออก “น้องเล่งซาน ช่วยนวดขับพิษลงสู่เบื้องล่างให้ข้าเร็ว “ ขณะที่มือเล่งซานลูบไล้หน้าท้องอันเต็บไปด้วยมัดกล้ามของเล่งฮู้ชง พลันนางรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของอวัยวะที่เบื้องล่างท้องน้องศิษย์พี่ แข้งขันชูชันขึ้นมา “พี่เล่งฮู้ ท่าน! ท่าน! เหตุใดงวงของท่านชูชันขึ้นมาอย่างนั้น “น้องเล่งซานนั่นไม่ใช่งวงนั่นคือแท่งหยกที่เราได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เราใช้รวบรวมพลังยุทธทั้งหมดของเราไว้ในนั้น ขณะนี้พลังความร้อนของธาตุไฟได้เข้าไปคั่งอยู่แล้ว จงช่วยรีดธาตุไฟออกมา” เล่งซานบุตรีเจ้าสำนักหัวซาน ไม่เคยเห็น แท่งหยกของเพศชายมาก่อน จึงลูบเล่น “โอ แท่งหยกของท่านน่ารักยิ่งนัก” นางยิ่งลูบไล้ แท่งหยกของเล่งฮูชงยิ่งแข็งขันขึ้นมาใหญ่ปรากฎอยู่ตรงหน้าเล่งซานแล้ว นางจับมันกำเอาไว้แล้วรูดขึ้นลง “อูย น้องเล่งซาน เบาๆ” แล้วเล่งฮู้ชงก็เอื้อมมือไปจับหน้าอกนาง แล้วลูบคลึงปทุมถันนางอย่างมันมือ “น้องลิงซานเจ้าใช้ลิ้นเลียแท่งหยกของข้าซิ เล่งซานทำตามอย่างง่ายดาย” แท่งหยกของเล่งฮู้ชงยิ่งชูชัน ไม่มีวี่แวงว่าจะอ่อนตัวลง นางยิ่งดูดแท่งหยก มันก็ยิ่งส่ายหัวไปมา เล่งฮู้ชงยิ่งส่งเสียงครวญคราง มือเล่งฮู้ชงคว้าปัดป่ายไปในเสื้อของเล่งซาน เสื้อชั้นนอกและตัวเอี้ยมสีแดงหลุดออกไปอย่างไม่รู้ตัว ปรากฏปทุมถัดอันกลมกลึงขาวสล้าง เล่งฮู้ชงยิ่งมีอาการตัวเกรง หายใจติดขัด บัดเดี่ยวหอบเร็วกว่าเดิม บัดเดี๋ยวหยุดถอนหายใจ หัวใจเขาก็เต้นตังตุ๊บตับจนหลิงวานรับรู้ได้ “พี่เล่งฮู้ท่านเจ็บปวดหรือไม่” เล่งซานถาม “น้องเล่งซาน เจ้าแก้สายรัดเอวเจ้าออก แล้วใช้ถ้ำทองของเจ้ารีดพิษ ออกมาจากแท่งหยกของข้าเถิด ข้าจะระเบิดตายอยู่แล้ว” เล่งซานอ่ำอึ้งชั่วครู่ “ท่านพี่ถ้าข้ารีดพิษให้ท่านแล้ว พิษธาตุไปเข้าไปในตัวข้า ข้าจะเป็นอันตรายหรือไม่” “ไม่เด็ดขาด เจ้าจะไม่เป็นอันตรายใดใดเลย มิหนำซ้ำยังจะเพิ่มพลังยุทธ ให้เจ้าอีก” เล่งซานขึงแก้สายรัดเอวดึงกางเกงของตนออก แต่ถ้ำทองช่องหยกของนางยังปิดสนิท ยังไม่เคยมีอันใดกล้ำกรายมาก่อน นางหันมามองพี่เล่งฮู้ “นี่ แท่งหยกมหึมาของท่านจะเข้าไปในช่องทางอันเล็กน้อยของข้าได้อย่างไร” เล่งฮู้ชงตะลึงกับเนินขาวเนียนของนางปรากฏขนรำไร น่ารับประทานยิ่งนัก เขาเคยแต่เที่ยวสำนักนางโลมชั้นต่ำเพราะเฒ่างักไม่ค่อยให้เงินเขาใช้ และเขาเคยลักลอบเป็นชู้กับเมียชาวบ้านแถวเชิงเขาหัวซาน เล่งฮู้ชงไม่เคยลิ้มลองของดีเช่นนี้มาก่อน จึงดีใจยิ่งนัก “น้องหลิงซานอย่างนั้น เจ้าหันเนินของเจ้ามาตรงหน้าข้านี่” พลันเล่งฮู้ชงเอามือจับตะโพกของนางรั้งเข้ามาที่หน้าตน แลบลิ้นออกเลียเนินสวรรค์ที่มีหญ้าอยู่ประปราย ส่วนใบหน้าของศิษย์เองสำนักหัวซานซบอยู่ตรงเนินสวรรค์ลูกสาวเจ้าสำนัก เล่งฮู้ชงบรรจงเลียท่อนขาคู่นั้นระเรื่อยขึ้นไปจนถึงเนินสวรรค์อันขาวผ่อง อีกครั้ง แล้วนิ่งซบกลิ่นอยู่ตรงนั้น ขนที่ขึ้นมาประปรายบนเนินนางช่างน่าถนอม...เล่งฮู้ชงถอนใบหน้าขึ้นจากเนิน นางแล้วจ้องมองดูอย่างกระหาย กลีบหยกสองข้างชิดกันจนมองแทบไม่เห็นร่องน้ำแอ่งสวรรค์ ช่างงดงามอะไรอย่างนั้นจะเห็นก็เพียงรูปรอยผ่าซีกเท่านั้น เล่งซานโดนลิ้นพี่เล่งฮู้สอดส่ายกลางเนิน ถึงกับบิดตัวไปมา ขาสองข้างเหยียดตรงเพราะความสยิวรัญจวน

หายใจกระเส่าเหมือนคนจะสิ้นใจ “พี่เล่งฮู้ พี่เล่งฮู้ข้ารู้สึกประหลาดนัก คล้ายธาตุไฟจะแตกไปอีกคน” เล่งซานส่งเสียงกระเส่า เล่งฮู้ชงพลางใช้ลิ้นเลียเลียบฝั่งคลองสองข้าง เล่งซานลืมตัวเผลอไป ใช้มือกดหัวเล่งฮู้ชงให้ลงไปตรงร่องสวาทของนาง เขาใช้ลิ้นดุนเข้าไปในร่องระหว่างสองแคมและตวัดไปมา “โอ! ท่านพี่ ท่านพี่” เล่งซานร้องพลางมือกดหัวเล่งฮู้ชงแน่น เล่งฮุ้ชงใช้ลิ้นแยงเข้าไปในระหว่างกลีบของศิษย์น้อง คราวนี้ถลำลึกเข้าไปในถ้ำหยกของนาง ยิ่งทำให้นางดิ้นอย่างสยิวรัญจวน จอมยุทธเล่งฮู้พุ่งลิ้นเข้าไประรัวอยู่ภายในถ้ำ เมื่อกระทบกับปุ่มกระสันต์ ตะโพกอันกลมงอนของเล่งซานถึงกับส่ายยังกับว่าวติดลม น้ำเมือกเริ่มไหลซึมออกมา เล่งฮู้ชงสอดแทรกลิ้นเข้าไปเต้นระรัวอยู่ภายในถ้ำทอง เล่งซานครางแทบขาดใจเพราะลิ้นมีความอ่อนนิ่ม เคลื่อนไหวรวดเร็ว มันทำให้นางเสียวซ่านยิ่งกว่าถูกสัมผัสด้วยนิ้วมือ มันพลิ้วรัวได้รสชาดซาบซ่านถึงใจกว่า สังเกตได้จากก้นกลมของนางส่ายไม่หยุดนิ่ง น้ำรักก็หลั่งออกมาเรื่อย ๆ เล่งฮู้ชงดูดกินอย่างอร่อย จนเล่งซานร้อง “ท่านพี่ ท่านพี่ข้าไม่ไหวแล้วพอเถิด” เล่งฮู้ชงจึงรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะเผด็จศึกขั้นสุดท้ายศิษย์น้อง จึงประคองแท่งหยกของเขาจ่อที่ปากทางถ้ำสวาทของนาง แล้วค่อยค่อยกดเข้าไป “น้องเล่งซานเจ้าทนเจ็บนิดนึงนะ ข้าใกล้จะขับพิษออกหมดแล้ว” อือ อือ มีแต่เสียร้องอืออือ ไม่เป็นภาษาของศิษย์น้องเพราะนางอยู่ในภาวะหูอื้อตาปรือแล้ว เล่งฮู้ชงจับหัวเจ้ามังกรยักษ์ยัดเข้าทีละนิด ๆ “โอย!” นางร้องด้วยความเจ็บปวด ราวกับร่างกายถูกฉีกออก เล่งฮู้ชงกดไหลนางไว้ กระซิบ “อดทนอีกนิดนะ เดี่ยวเจ้าก็สบาย” นางพยักหน้าอืมอืม ด้วยหวังว่าจะช่วยชีวิต ศิษย์พี่ไว้ได้จากการถูกธาตุไฟเข้าแทรก

เล่งซานครวญครางสลับกันอย่างล้ำลึกในรสชาติ "อูยยยย.... ซี้ดดดดด ข้าไม่ไหวแล้วท่านพี่ โอว์...อูยยยย....ซี้ด... แท่งหยกของท่านช่างใหญ่เต็มรูคับแน่นไปหมด" เมื่อความเจ็บเริ่มลดลง ความเสียวเข้ามาแทนที่ เสียงเนื้อของศิษย์พี่กระทบกันกับหน้าท้องของนาง ดังเป็นจังหวะจะโคน พั่บ..พั่บ..พั่บ.. เล่งฮู้ชงกดแท่งหยกแนบแน่นกับกลีบบางของศิษย์น้องอย่างพอดิบพอดี ทำให้นางถึงกับสะท้าน เพราะทุกส่วนของนางเสียดสีเข้ากับแท่งหยกอย่างจัง เมือกใสทะลักไหลเยิ้มออกมา เล่งฮู้ชงกดสะโพกอัดลำเข้าไปอย่างแรงอีกหลายครั้ง เขารัวซอยถี่ๆ อย่างรวดเร็ว เล่งซานดิ้นพล่าน ขยับเอวส่ายสะโพกร่อนรับ เสียงเนื้อปะทะกันดังระคนเสียงครางดังอยู่ไม่ขาดสาย แล้วจู่ๆสิ่งที่ไม่คาดคิดก็มาถึง เมื่อช่องถ้ำทองของเล่งซานเกร็งขมิบ เนินโหนกเนื้อแข็งเกร็งภายในตอดดูดรัดเป็นจังหวะ ขนของเล่งซานลุกไปทั่งร่าง นางกัดฟันเม้มปากแน่น แสดงถึงอาการเสียวสุขสม เล่งฮู้ชงก็ร้อง “โอววว” ออกมา แล้วสอดร่างเข้าไปลึกอีกนิด ท่อนเนื้อหยกกดเข้าไปสู่ที่ลึกที่สุด พร้อมกับปลดปล่อย หยาดรักสีขาวเข้าไปในถ้ำทองของศิษย์น้อง

เล่งซาน ยังไม่วายเป็นห่วงศิษย์พี่ถามว่า “ศิษย์พี่ ท่านเป็นไรหรือไม่ ข้ารู้สึกได้ว่าพิษธาตุไปที่ท่านปล่อยออกมาอุ่นยิ่งนัก ข้าจะเป็นอันตรายหรือไม่” เล่งฮู้ชงเห็นศิษย์น้องไร้เดียงสาเช่นนั้น จึงลิงโลดใจ พูดว่า “น้องเล่งซาน เจ้าหาเป็นไรไม่ ส่วนตัวข้า ข้าปลดปล่อยธาตุไฟออกไปแล้ว ข้าไม่เป็นไรแล้ว แต่พิษจำกำเริบทุกเที่ยงวันต้องใช้เวลา 30 กว่าวันจึงขจัดหมด เจ้าจำต้องมาช่วยข้าทุกเที่ยงวัน ตัวเจ้าจะไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดรังแต่เพิ่มพูนพลังยุทธขึ้น แม้กระทั่งสรีระของเจ้าจะผึ่งฝายขึ้น ส่งผลให้เจ้าดีขึ้นทั้งกำลังภายนอกและภายใน แต่ เจ้าต้องรักษาเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ อย่าให้อาจารย์และอาจารย์หญิงล่วงรู้เป็นอันขาด” เล่งซานพอรู้ว่าตนสามารถช่วยเหลือศิษย์พี่ได้ดีใจยิ่งนักและตนยังได้ผลพลอย ได้เพิ่มพูนพลังยุทธอีก จึงรีบรับปาก “ได้ค่ะ ท่านพี่ ข้าจะมาขจัดพิษธาตุไฟให้ท่านทุกวัน”เล่งซานนอนระทดระทวยอยู่ในอ้อมแขนของ เล่งฮู้ชง มือเรียวยาวของนางจับแท่งหยกของศิษย์พี่ซึ่งบัดนี้กำลังอ่อนตัวลงนุ่มนิ่ม ลูบไล้เล่น น่าเล่นยิ่งนัก น่าเล่นยิ่งนักนางพึมพำ มือนางซุกไซ้ลูบไล้แท่งหยกของศิษย์พี่ พลันนางพบว่าแท่งหยกของศิษย์พี่แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง นางเบิกตาโพล่ง “โอ ท่านพี่ ท่านใช่ต้องการปลดปล่อยพลังอีกใช่หรือไม่?”

เล่งฮู้ชงฝึกเพลงกระบี่และลมปราณมารผสมกับเทพ ด้วยวิธีนี้ และงักเล่งซานก็ติดอกติดใจที่จะมาช่วยศิษย์พี่ฝึกวิชา ทำให้เพลงกระบี่ของเล่งฮู้ชงกลายเป็นสุดยอด เล่งฮู้ชงได้บัญญัติเพลงกระบี่อันหนึ่งร่วมกับงักเล่งซาน โดยตั้งชื่อว่าเพลงกระบี่ซานเล้งอันที่จริงคือท่วงท่าการร่วมรักของคนทั้ง สองได้ดัดแปลงเป็นท่ากระบี่เพื่อร่ายรำและสู้กันหลอกหลอก เพื่อจะได้นัดหมายกันว่าวันนี้ทั้งสองจะร่วมรักกันท่าใดเมื่อยู่ต่อหน้าคน อื่นก็จะร่ายรำท่ากระบี่ซานเล้งสื่อความหมายให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้ หรือเมื่อถูกถามก็จะบอกว่าท่านั้นท่านี้ โดยหลบเลี่ยงการจับผิดของคนอื่น งักเล้งซังซึ่งเดิมพอใจในตัวศิษย์พี่อยู่แล้ว กลับลุ่มหลงมากกว่าเดิม งักเล้งซังจากหญิงเรียบร้อย ไม่รู้จักกามารมณ์ จึงกลายเป็นคนที่เจนจัดในกระบวนวิชารัก อย่างเทียบไม่ได้ไม่ว่าพี่เล้งฮู้จะสอนนางท่าใด นางล้วนแต่รับไว้ด้วยความยินดี นางรับมือพี่เล้งอู้ได้ทุกกระบวนท่า ไม่ว่าท่าหมา ลิงอุ้มแต่ง กวางเหลียวหลัง ยกซด ล้วนแต่นางรับมือได้หมดสิ้น การที่ฝีมือกระบี่ของเล่งฮู้ชงก้าวหน้าผิดสังเกต ส่งผลให้งักกุคุ้งเจ้าสำนัก เกิดความไม่พอใจจึงหาข้ออ้างขับเขาออกจากหัวซาน งักกุคุ้งเป็นคนโหดเหี้ยมหน้าไหว้หลังหลอก และเข้าใจผิดว่าเล่งฮู้ชงได้คัมภีร์ปราบมารไว้กับตัวเอง จึงต้องการได้คัมภีร์ซึ่งเป็นสุดยอดเคล็ดวิชา มาเป็นของตัวจึงได้วางแผนชิงคัมภีร์จากเล่งฮู้ชงโดยให้ลูกสาวตนมายั่วยวน เล่งฮู้ชง หารู้ไม่ว่าเล่งฮู้ชงได้เผด็จศึกลูกสาวเจ้าสำนักเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: