เกมออกใหม่ไม่เกิน2เดือน ดูเกมทั้งหมดได้ที่เวบบอร์ด

เกมแนะนำที่ไม่ควรพลาด ดูเกมทั้งหมดได้ที่เวบบอร์ด

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2550

สองพี่น้อง ตอน หมอพร่าสวาท


สองพี่น้อง ตอน หมอพร่าสวาท

1

มันเป็นเวลาดึกดื่นค่ำคืน ตี 3 กว่าๆแล้ว รถเบนซ์คันโตคลานเข้ามาใน คฤหาสน์หลังโตอย่างช้าๆ ชายสองคนที่นั่งอยู่หลังรถ ชื่อเมธีและนราวุธ ส่วนคนขับคือไอ้ดำ ทั้งสองพี่น้องเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ ร่ำรวยทั้งคู่ ทว่าสองพี่น้องเจ้าชู้นัก

เมธีใจเต้นระทึก เขาหายไปจากบ้านสี่วันแล้ว รู้ตัวว่าต้องโดนภรรยาโคตรดุของเขาเล่นงานแน่ หันไปดูน้องชายเห็นนอนหลับกรน ก็เอื้อมมือไปปลุก
“ตื่นโว้ยวุธ ถึงบ้านแล้ว”
นราวุธงัวเงียลืมตาขึ้น
“ถึงแล้วหรือพี่ธี ทำไมเร็วอย่างนี้ ไอ้ดำซิ่งอีกแล้วซิ”
เมธีกระซิบบอกน้องชาย
“อย่าเอะอะซิวุธ เมียเล่นงานเราแน่ ดันหายไปตั้งสี่วันแบบนี้”
นราวุธหน้าซีด
“เราค่อยๆย่องเข้าไปเหอะ ดึกอย่างนี้คงหลับกันแล้วละ”

สองพี่น้องฝืนยิ้ม ทำใจให้กล้าหาญ แล้วพากันเดินเข้าไปในคฤหาสน์

บนโซฟาในห้องนั่งเล่น จีรนันท์ กับ มยุรี สองสาวสวยนั่งร้องไห้จนนัยน์ตาบวมและช้ำ ด้วยความโกรธและน้อยใจ ที่สามีสุดแสบเล่นหายไปจากบ้านโดยไม่บอกกล่าวตั้งหลายวัน ทั้งสองคนคิดว่าผัวต้องไปมีเมียน้อยแน่นอนแล้ว

เมธีสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นเมียสุดที่รักยังไม่นอนอย่างที่คิด รีบหันมาดุน้อง
“พี่บอกแล้ว ว่าจะกลับจะกลับ แกก็ชวนค้างอยู่ได้”
“โอ๋ย อย่าใส่ร้ายผมซิพี่ธี แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว ผิดแล้วต้องยอมรับผิดซิครับ เมียเราใจดีน่า”
“จริงของแก” เมธีถอนใจ
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปหาเมียสุดสวย เมธีสบตากับจีรนันท์ พูดเสียงอ่อยๆ
“หวัดดีจ้ะนัน พี่เที่ยวเพลินไปหน่อย”
จีรนันท์น้ำตาคลอ รู้สึกว่าหมู่นี้สามีมักทำท่าเบื่อหน่ายหล่อน สาวสวยน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่าเขาต้องมีเมียน้อยแน่นอน
“ไปไหนกันมาคะ”
เมธียิ้มอย่างโล่งใจเมื่อเห็นเมียไม่ดุอย่างที่คิดไว้
“วุธเค้าชวนพี่ไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างจังหวัดน่ะ”
“ว้า” นราวุธโวยวาย “โทษกันอีกแล้ว”
“ก็จริงนี่หว่า”

มยุรีภรรยาของนราวุธพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“ไปต่างจังหวัดอะไรคะ ไม่เอาเสื้อผ้าติดตัวไปเลย แปรงสีฟันอะไรก็ไม่มี”
“เพื่อนมันให้ยืมจ้ะ” นราวุธพูดหน้าตาเฉย
“โกหก ลิปสติกที่เสื้อน่ะเพื่อนแกล้งอีกล่ะซิ” มยุรีเอ็ดตะโร
นราวุธสะดุ้งเฮือก
“เอ้อ... เพื่อนพี่คงจะแกล้งจริงๆด้วย”
เมธีเห็นท่าไม่ดี จึงพูดเสียงนุ่มนวลกับภรรยาสุดที่รัก
“ไปนอนจู๋จี๋กันเถอะจ้ะ คิดถึงนันจะแย่แล้ว”
จีรนันท์ร้องไห้กระซิก
“อย่ามาพูดดีเลย พี่ธีเบื่อนันแล้วใช่ไม๊ หลังๆนี่ไม่สนใจเมียเลย”
“ใครบอกล่ะ พี่คิดถึงแต่นันคนเดียวตลอดเลยนะ ไปนอนจู๋จี๋กันนะที่รัก” แล้วก็หันไปบอกน้องชาย “ขึ้นห้องเถอะวุธ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาเมียไปเที่ยวซักวัน ว่าจะซื้อแหวนเพชรให้เมียซะหน่อย”

แล้วสองพี่น้องก็รีบลุกขึ้น เดินขึ้นบันไดไป จีรนันท์กับมยุรีปรึกษาหารือกันเบาๆ
“พี่ว่า สองคนนี่ต้องไปมีเมียน้อยแน่ๆ ไม่งั้นไม่หายหัวนานแบบนี้”
มยุรีขบกรามกรอด
“ฮึ่ม คอยดูนะ จับได้คาหนังคาเขา แม่เอาให้ตายเลย”
“เบาๆหน่อยน้องรี พี่ว่าถ้าเราดุกับผัวมากไป เค้าอาจจะยิ่งหนีไปหาเมียน้อยนะ”
“งั้นทำไงดีล่ะคะ”
“ก็ต้องปรับปรุงตัวซิ ทำสุภาพอ่อนหวาน อย่าข่มขู่เขาเหมือนก่อน เราก็สวยไม่เป็นรองใครเหมือนกัน หว่านเสน่ห์มากๆเข้าไว้ ผู้ชายน่ะชอบผู้หญิงเอาใจ”
“อือ แต่รีชอบข่มพี่วุธตลอด ให้มาอ่อนหวาน มันอดเขินไม่ได้ค่ะ”
จีรนันท์ยิ้ม
“ก็ต้องยอมอาย หรืออยากจะถูกผัวทิ้งล่ะน้องรี พอดีกว่า ขึ้นห้องได้แล้ว เดี๋ยวสว่างกันพอดี”

สองสาวพากันลุกขึ้น เดินขึ้นไปข้างบน มยุรีกลับเข้าไปในห้องนอน นราวุธเดินออกจากห้องน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว พอเห็นมยุรีเดินเข้ามาในห้องก็เย็นวาบทั้งตัว แต่ผิดคาด มยุรียิ้มหวาน
“อาบน้ำแล้วหรือค่ะ”
“จ้ะ แหม น้ำหนาวจัง” ชายหนุ่มกลัวจนพูดไม่เป็นภาษา
มยุรียิ้ม
“ทานนมสักแก้วไหมคะ รีจะไปเอามาให้”
“ไม่..ไม่หรอกจ้ะ พี่อิ่มแล้ว”
มยุรีเดินมาหยิบ ชุดนอนยื่นให้สามีอย่างนอบน้อม
“ใส่ชุดนอนซิคะ”
นราวุธอ้าปากค้าง ตั้งแต่แต่งงานกันมามยุรีไม่เคยหยิบเสื้อผ้าให้เขาเลย เขารับเสื้อผ้ามา มยุรีช่วยสวมให้เขาด้วย นราวุธจูงมือภรรยามานั่งที่เตียง มือขวาประคองกอดเธอ มยุรียื่นปากให้เขาจูบโดยดี นราวุธจูบเธออย่างทะนุถนอม
“รีจ๋า”
“ขา”
นราวุธเชยคางเธอ มือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวนุ่มๆ
“โกรธพี่หรือเปล่า หายหน้าหายตาไปตั้งสี่วัน”
มยุรีสั่นศีรษะ
“ทีแรกก็โกรธค่ะ แต่คิดอีกที รีทำตัวไม่ดี พี่วุธถึงเบื่อหน่ายรี ถ้าหากรีทำดี พี่วุธคงไม่ทิ้งรีไปไหนใช่ไหมคะ”
นราวุธชักใจคอไม่ดี เมื่อเห็นน้ำตาของเมียรักไหลคลอทั้งสองข้าง เขายกมือลูบศีรษะเธอเบาๆ
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะเมียจ๋า พี่เป็นผู้ชาย ถ้าจะมีอะไรก็มีกับพวกกะหรี่ พี่ไม่มีเมียน้อยหรอกจ้ะ”
“อ้อ งั้นหรือคะ รีก็อาจเป็นกะหรี่ได้เหมือนกัน ถ้าหากถูกพี่วุธทิ้ง รีก็ต้องหาทางทำทุกอย่างเพื่อช่วยตัวเอง”
นราวุธก้มลงจูบภรรยารักของเขาอีกครั้ง
“ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย พี่ก็ทิ้งรีไม่ได้ อย่าน้อยใจเลยนะจ๊ะ ต่อไปพี่จะไม่หนีรีไปนอนที่ไหนอีกแล้ว”
มยุรียิ้มเศร้าๆ
“จริงหรือคะ”
“จ้ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“โธ่ ให้ฟ้าผ่าตายก็ได้ รีเอาชนะความชั่วด้วยความดี ทำให้พี่นึกละอายใจตัวเอง มาให้พี่จูบดีกว่านะ ยอดรักของพี่” แล้วนราวุธก็ก้มลงจูบภรรยารักของเขา มือลูบคลำไปๆมาตามหน้าอก สะโพก นิ้วชี้เกี่ยวขอบชุดนอนร่นสูงจนถึงโคนขาอ่อน ชายหนุ่มจ้องมองด้วยสายตาวาววามเล่นเอามยุรีหน้าแดง
“มองอะไรคะพี่วุธ ทำยังกะไม่เคยเห็นอย่างงั้น”
“โธ่ ก็ผัวชอบของขาวๆ นี่”
มยุรีหัวเราะคิก นราวุธลูบไล้ไปตามสะโพกผาย รู้สึกถึงเนื้อแน่นๆที่อยู่ภายใต้ชุดนอนเรียบรื่นละมุนมือ แล้วเลื่อนมาคลึงอกอวบ เฟ้นฟอนอยู่กับอกปลั่งที่คัดแน่นอันงดงามของมยุรีอยู่นาน ก่อนจะปลดสายเสื้อนอนออกจากไหล่กลมๆเนียนๆให้หลุดต่ำลงไป พร้อมกับซุกไซ้ ดูดดมทั่วทั้งสองเต้าที่ขาวผ่อง.. นิ้วก็เริ่มซุกซน

“อูยยยส์ อย่าซี อย่าบี้ตรงนั้น มันเสียว รู้มั้ย ดูซิ ไม่ ไม่เอานะ”
ปากก็บอกไม่เอา ไม่เอา แต่กลับแยกหัวเข่า และยกสะโพกเบาๆให้เขารูดกางเกงชั้นในตัวจิ๋วจนหลุดหายไปจากปลายเท้า นราวุธแหวกขาขาวๆ ให้ชันเข่าแบะถ่าง... แหวกรอยแยกของมยุรีจนเห็นเนื้อในแดงร่า.... ตุ่มไตเต้นระริกเหมือนจะมีชีวิตชีวา

นราวุธคุกเข่าก้มหน้าเล่นกับหม้ออูมอันโอฬารของเมียสาว เขาลูบคลึงบนเนินโหนกเบาๆ
“ซี๊ด อูยย อย่าไม่อา อย่า”
มยุรีส่งเสียงครวญคราง ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงตรงเนินโหนกอันอูมปลั่ง ไซร้เล่นบนเส้นไหมนุ่มๆ แล้วใช้สองมือประคองช่วยแหวกให้ลิ้นซุกเลียลงไปฉก เลีย ลาก ถูไถจน มยุรีแอ่นสะโพก บิดกายเร่าๆ มือเท้าหงิกงอ ครางอี๋
“อูยย พี่วุธ จะทรมานเมียไปถึงไหน อูยย เสียวใจจะขาดอยู่แล้ว”
มยุรีพร่ำเสียงโหย บิดกายส่ายสะโพกยกขึ้นรับสองมือจิกเข้าที่ผมของนราวุธแน่น ริมฝีปากสีชมพูเม้มเข้าหากันแน่นสนิท ดวงตาทั้งคู่หลับปี๋ ใบหน้าแดงก่ำ
“โอ๊ยย ไม่ไหวแล้ว พี่วุธ รีเสียวเหลือเกิน”

นราวุธก็เสียวจนท่อนเอ็นแข็งโด่ชูชันอยากจะมุดหีของมยุรีอยู่แล้ว ชายหนุ่มเอาหมอนมารองใต้สะโพกอย่างจงใจและเจตนา...

มยุรีแยกขาเปิดทางอ้ารับเต็มที่ นราวุธเอามือยกขาขาวอวบทั้งสองให้ถ่างออกอีก แล้วคุกเข่าโน้มปลายควยที่ผงกหัวหงึกหงักกดช้าๆ ตอกควยใหญ่เข้าใส่ร่องหีของมยุรี ลำควยแหวก ปากถ้ำที่ฉ่ำเยิ้มมันผลุบหุบไปตามท่อนเอ็นที่พยายามจะมุดให้สุดด้าม

“เบาๆก่อน พี่วุธ คับจังเลย อย่าเพิ่งน่ะ อูยยย”

หีของมยุรีบีบรัดเขาแน่นจริงๆจนนราวุธเกือบน้ำแตก ชายหนุ่มเลยคาไว้ครู่หนึ่งแล้วจึงเริ่มซอยกระเด้าช้าๆ แต่เสียงครางกระเส่าของมยุรี กระตุ้นให้เขาเกิดความมันส์ จึงโหมตะบี้ตะบัน ไม่หยุด มยุรีจิกปลายเล็บลงบนหลังของเขาจนปวดแสบไปหมด คราวนี้นราวุธดึงยาว สาวกดกระแทกไม่ยั้ง

“อูยยย ไม่ไหวแล้วผัวจ๋า อย่าทำอย่างนี้ อูววว อย่าเพิ่งบี้ เมียเสียว ค่อยๆก่อนคนดี เมียไม่หนี...ซี๊ด...อูยยย อย่าเพิ่งซี”

นราวุธยิ่งเร่งยิ่งมันส์ จึงโหมกระเด้าควยใส่รูหีมยุรีได้ยินเสียงเนื้อกระทบกับโคกหีของมยุรีดังลั่น ชายหนุ่มก้มลงฝังหน้าคลุกเคล้าบนสองเต้าขาวเต่งดุจบัวตูมของเมียรัก ทั้งจูบ ทั้งหอม ทั้งเลีย ทั้งดูด จนร่างขาวของมยุรีผวาบิดกายแอ่นอกขาวๆ ให้นราวุธดูดราวกับเด็กๆ ส่วนด้านล่างกลับยกสะโพกสูงเด้งรับอย่างแข็งขัน ทั้งสองแข่งกันร้องคราง เมื่อรู้สึกบางอย่างได้สัมผัสกับความหนึบแน่นและตอดรัดจนทนไม่ไหว

“แรงๆ..เร็วๆค่ะ โอยย รีเสียวเหลือเกิน ซี๊ดดด”

หยาดเหงื่อเป็นมันพราวเกาะอยู่บนร่างงามของมยุรี สาวสวยสะบัดหน้าเร่าอยู่ไปมา ชายหนุ่มก็ล่อสะบั้น ตอกกระหน่ำ ทั้งยาวทั้งสั้น ซ้ำๆจนมยุรีได้แต่ครวญครางโหยหา กระเด้งสะโพกรับโต้ตอบการอัดทะลวงของชายหนุ่มอย่างสุดมันส์

“โอวววว เร็วๆ อย่าหยุดนะ เมียจะออกแล้ว อูยยยย”
มยุรีร้องครางเสียงกระเส่า ยกสะโพกแอ่นกัดฟันกรอดๆ ร่างกระตุกยึกๆ พร้อมกับสะอื้นน้ำตาไหล
“อูย ผัวจ๋า เมียทนไม่ไหวแล้ว เสียว อูยยย”
“โอ๊ยยย รูหีเมียฟิตจัง.. ซี๊ดด.....เสียว..รอผัวด้วย..อูยยย ซี๊ดดดด”
มยุรีแอ่นร่างอวบขาวกระตุกเร่าๆ สองสามที นราวุธก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว กระแทกจนเตียงสะเทือน
“โอ๊ยยย ย” นราวุธร้องเสียงดังฉีดน้ำกาม ขาวข้นกระฉูดเข้าไปในรูหีปะทะกับน้ำอุ่นของมยุรีเต็มแรง...แล้วก้มลงจูบปาก รูปกระจับสีชมพูอย่างหลงไหลในรสสวาท.... เขากอดก่ายลูบไล้ร่างงาม เปลือยเปล่าอยู่พักใหญ่ แล้วก็ถอนตัวออกมา

นราวุธเผลองีบไปวูบหนึ่งด้วยความเพลีย พองัวเงียขึ้นมา เห็นมยุรีนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ดึงลิ้นชักข้างขวาออกมา หยิบมีดโกน ชายหนุ่มตาเหลือกหายง่วงทันที คิดว่ามยุรีคงจะเล่นงานเขาด้วยมีดโกนแน่แล้ว แต่ความจริง มยุรีต้องการกันคิ้วตัวเองเท่านั้น
“โอ๊ย เมียเราจะเล่นมีดโกนเลยหรือนี่”
มยุรีง้างมีดโกนออก สะบัดคมมีดพรืด นราวุธรีบพรวดพราดลุกจากเตียง มยุรีหันมายิ้ม
“ทำไมไม่นอนคะ”
นราวุธฝืนหัวเราะ
“นอนไม่หลับจ้ะ เดี๋ยวพี่ลงไปทานน้ำหน่อยดีกว่า ชักคอแห้ง”
“รีไปเอาให้นะ”
“ไม่เป็นไรพี่ไปเอง”

นราวุธเปิดประตูออกไปก็เห็นเมธีพี่ชายยืนอยู่ข้างนอก
“อ้าว พี่ธียังไม่นอนเหรอ”
“เออ รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้”
“รู้สึกอะไร”
“ก็นันทำดีผิดปกติน่ะซิ หนีเที่ยวตั้งสี่คืนนอกจากจะไม่ด่าแล้ว ยังเอาใจผิดปกติ พี่นึกสังหรณ์ยังไงไม่รู้ หลับไม่ลงว่ะ”
นราวุธขมวดคิ้วพูดบ้าง
“เมียผมเหมือนกัน แถมเอามีดโกนออกมาตวัดเล่นด้วย..”
“มีดโกน! มยุรีจะใช้มีดโกนกับแกเลยหรือ ตายห่า ทำไงดีวะ ขืนเราหลับเพลินๆ จะโดนอะไรก็ไม่รู้”
“ไปขอนอนบ้านลุงก่อนดีกว่า พี่ธี ตอนเช้าค่อยกลับ”
“เออ เร็วเลย ชักง่วงแล้ว”
แล้วสองพี่น้องก็พากันเดินไปข้างล่าง หลังจากนั้นเสียงสตาร์ทเครื่องยนตร์ก็ดังลั่น

สองสาววิ่งออกมาดูเห็นรถยนต์คันหรูแล่นออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว มยุรีกับจีรนันท์ต่างโผเข้าหากันร้องไห้สะอึกสะอื้น
“พี่นัน ผัวเราคงหลงเมียน้อยงมงายแล้ว ฮือ ฮือ เราคงถูกผัวทิ้งแน่แล้วในคราวนี้”
สองสาวต่างทุกข์ระทมใจไปตามๆกัน หลังจากวันนั้นทั้งคู่ก็ไม่กล้าดุใส่ผัว ไม่ว่าทังคู่จะกลับดึกยังไง ก็ไม่กล้าปริปากให้ผัวขุ่นข้องหมองใจ

สองพี่น้อง ตอน หมอพร่าสวาท 2

2

บ่ายวันหนึ่งขณะที่จีรนันท์กับมยุรีกำลังนอนปรึกษากันบนเตียงนอนในห้อง ของจีรนันท์ พิมสาวใช้ก็เดินมาคุกเข่าอยู่ข้างเตียง มยุรีถามทันที
“มีอะไรจ๊ะพิม”
“คุณจันทนีย์มาหาค่ะ”
มยุรีลืมตาโพลง จันทนีย์เป็นเพื่อนรุ่นพี่สมัยที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม ทั้งสามคนสนิทกันมาก
“รีบไปพาขึ้นมาเร็วๆเลยพิม คนกันเองแท้ๆ”
“ค่ะ”
พิมรับคำอย่างนอบน้อมแล้วเดินออกไปจากห้อง มยุรีหันมาหาจีรนันท์
“น่าสงสารพี่นีนะคะ โดนผัวทิ้งตั้งแต่สาวๆ”
“อีกหน่อยเราก็อาจจะโดนผัวทิ้งเหมือนกับพี่นีก็ได้นะน้องรี”
มยุรีถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นั่นซิคะ”

สักพักสุภาพสตรีร่างอวบอัดก็เดินเข้ามาในห้อง เธอคือจันทนีย์ ภรรยาของนักธุรกิจคนสำคัญของประเทศ อายุของเธอจะสามสิบแล้ว แต่ยังสวยไม่สร่าง สองสาวพอเห็นจันทนีย์เดินเข้ามาก็วิ่งไป กอดรัดอย่างดีใจ
“พี่นีมาได้ไงคะ คิดถึงจังเลย”
“พี่ไปเชียงรายมา ซื้อผ้าไหมมาฝากจ้ะ”
“โห เกรงใจจังเลย ไหนคะ”
จันทนีย์ส่งถุงให้ สองสาวหยิบมาดู
“โอ้โฮ สวย” มยุรีร้องเสียงดัง
“นั่งก่อนซิคะพี่นี” จีรนันท์เชิญ

ทั้งสามนั่งลงบนโซฟาเดียวกัน
“ไม่ได้มาที่นี่นานเลยนะคะ นึกว่าลืมเราสองคนแล้ว”
จันทนีย์ยิ้ม
“ก็ตั้งใจจะมาหาหลายครั้งแล้ว แต่บัญชาน่ะซิ หวงไม่ให้พี่ไปไหน จะให้อยู่ใกล้ๆตลอดๆ ที่ไปเที่ยวนี่ก็ตามไปด้วยนะ”
“หา” จีรนันท์ร้องเสียงดัง “นี่พี่คืนดีกับคุณบัญชาแล้วหรือคะ”
“จ้ะ คืนดีเมื่อต้นเดือนนี้เอง พี่กล้าอวดว่าตอนนี้บัญชาทั้งรักทั้งหลงพี่มาก นังเมียน้อยสองคนตกกระป๋องไปแล้ว”
“จริงหรือคะ รีนึกว่าพี่จะคืนดีกันไม่ได้แล้ว”
“ตอนแรกพี่ก็ว่าจะไม่สนใจบัญชาแล้ว แต่เจ็บใจที่เรารักกันมานาน สร้างตัวมาด้วยกัน พอร่ำรวยแล้วอยู่ๆนังพวกนั้นจะมาชุบมือเปิบ พี่ก็เลยเล่นไม้เด็ดทำเอานังสองคนนั่นกระเด็นไปจากชีวิตบัญชาอย่างถาวร”
จีรนันท์หน้าตาตื่น
“ไม้เด็ด ไม้เด็ดอะไรคะ”

สาวงามร่างอวบ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หันไปมองรอบๆแล้วพูดเบาๆ
“คนเราไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องใช้คาถา”
จีรนันท์รีบถาม
“พี่ทำได้ไง บอกเราหน่อยเถอะ ตอนนี้นันกับน้องรีก็กำลังมีปัญหาเหมือนกัน เรากำลังสงสัยว่าพี่ธีกับวุธอาจจะแอบไปมีเมียน้อย เพราะไม่ค่อยกลับบ้านเลย”
มยุรีร้องไห้โฮ
“เจ็บใจจริงๆค่ะ รีรึอุตส่าห์ทำดี เอาอกเอาใจสารพัด ยังแอบไปมีเมียน้อยอีก ทำดีไม่ได้ดี อยากกินยาตายให้รู้แล้วรู้รอด”

จันทนีย์พูดยิ้มๆ
“อย่าอุตรีไปกินเลยเชียว ทำตามที่พี่บอกรับรองว่า เมธีกับนราวุธจะหลงเธอสองคนจนโงหัวไม่ขึ้น”
จีรนันท์พูดอย่างตื่นเต้น
“ทำยังไงคะพี่นี”
“เธอสองคนเชื่อเรื่องไสยศาสตร์หรือเปล่าล่ะ”
“ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ๋ง” จีรนันท์พูด
“รีเชื่อเต็มที่เลยค่ะ พี่นีพูดอย่างนี้หมายความว่าได้อาจารย์ดีใช่ไม๊”
“ใช่จ้ะ”
“ใครคะ”
“ชื่ออาจารย์แจ้ง อยู่ฝั่งธนน่ะ ตอนแรกพี่ก็ไม่เชื่อหรอก แต่คุณป้ารบเร้าให้ไปหา อาจารย์เก่งจริงๆนะ พี่ไปแค่วันแรกเห็นผลทันตา ตอนนี้บัญชาหลงพี่แทบคลั่ง สาบานว่าจะไม่เปลี่ยนใจจากพี่จนตาย”
“จริงหรือคะ”
“จริงซิ นันจ๋า เธอกับมยุรี ต้องไปหาอาจารย์แจ้งนะ จะยอมให้ผัวถูกเมียน้อยแย่งไปไม่ได้เด็ดขาด ผัวทั้งหล่อทั้งรวยอย่างนี้หาได้ง่ายๆที่ไหน โบราณว่าเสียทองเท่าหัวอย่ายอมเสียผัวให้ใคร รีบไปหาอาจารย์เร็วๆเลย”

จีรนันท์ฝืนยิ้ม
“แล้วเราต้องเตรียมอะไรไปบ้างคะ”
“ก็ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่ดอกไม้ธูปเทียน แล้วค่ายกครูยี่สิบบาท อาจารย์แกไม่ต้องการอะไรมาก ที่มารับทำเสน่ห์นี่เพราะแกไม่อยากเห็นครอบครัวไหนแตกแยกกันเพราะมือที่สาม แต่ยังไงนันควรจะให้ค่ายกครูแกเพิ่มนะ ใครให้เพิ่มแกก็ไม่ขัด เพราะถือว่าแล้วแต่ศรัทธา พี่ว่าควรจะรีบไปพรุ่งนี้เลย หรือไปวันนี้ยิ่งดี”
“งั้นไปวันนี้เลยดีกว่าค่ะ รีใจร้อน” มยุรีรีบพูดขึ้น
จันทนีย์พยักหน้า
“ดี พี่จะได้ให้แกดูดวงให้ด้วย แกดูดวงแม่นนะ”
“เก่งหลายอย่างอย่างนี้ ลูกศิษย์คงเยอะซินะ”
“โอ๊ย ทั้งบ้านทั้งเมือง ตั้งแต่ ทหาร ข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้า ชาวบ้าน ทุกระดับนี่แหละ ไปบ้านจะเห็นคุณหญิงคุณนายนั่งกันสลอน ล้วนแต่มาขอให้แกช่วยกันทั้งนั้น”
“อุ๊ยตาย งั้นเราสองคนไม่อายแย่เลยหรือคะ”
“จะไปอายทำไม ใครๆเค้าก็มาขอให้แกช่วยกันทั้งนั้น เรียกว่าอาจารย์เดียวกัน”
มยุรียิ้ม
“จริงสิเข้าตำราไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่”
“อาจารย์แจ้งอายุมากไม๊คะ พี่นี” จีรนันท์ถาม
“ก็ไม่มากเท่าไหร่ ราวสี่สิบเศษๆ รีบไปแต่งตัวกันเถอะจ้ะ จะได้ไปกัน”
“งั้นพี่นีรอเดี๋ยวนะคะ”
“จ้ะ แต่นันกับรีขับรถตามพี่ไปนะ พี่จะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาส่ง”
“ได้ค่ะพี่นี”

สองสาวรับคำแล้วรีบขึ้นไปแต่งตัว ด้วยความหวังว่าจะทำให้ผัวสุดที่รักหลงหัวปักหัวปำให้ได้ อันที่จริงทั้ง เมธีกับนราวุธนั้นหลงรักพวกเธอเป็นบ้าเป็นหลังอยู่แล้ว เพราะทั้งสองสาวล้วนแต่สวยยิ่งกว่าดารา แต่สองพี่น้องมีนิสัยเจ้าชู้ ที่หายกันไปบ่อยๆเพราะสองคนเปิดสาขาใหม่เพิ่มที่ต่างจังหวัด เลยต้องไปคอยดูแล แล้วด้วยความเจ้าชู้ก็เลยถือโอกาสเที่ยวค้างคืนกับผู้หญิงที่นั่น ทั้งนี้ก็แค่หาความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่สองสาวเข้าใจผิดไปเองแท้ๆ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา จันทนีย์ก็พาจีรนันท์กับมยุรีมาอยู่ที่หน้าบ้านของอาจารย์แจ้ง

บ้านของอาจารย์แจ้งเป็นเรือนปั้นหยา แม้จะดูเก่าแก่โบราณ แต่ก็มีรั้วรอบขอบชิดเป็นส่วนตัว วันนี้บ้านของอาจารย์ดูเงียบมาก มีเพียงบริวารของอาจารย์แจ้งอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น

“ลุง ลุง อาจารย์แจ้งอยู่ไม๊คะ” จันทนีย์ถามลุงคนหนึ่งซึ่งเดินผ่านมา
“อยู่ครับคุณนาย” เขาตอบอย่างนอบน้อม “แต่วันนี้วันพระนะครับ อาจารย์ไม่ทำพีธีให้ใคร”
จันทนีย์ลืมตาโพลง ยกมือทาบอก
“ตายจริง... ลืมซะสนิทเลย.. มาเสียเที่ยวกันแล้ว”
จีรนันท์กับมยุรีหน้าจ๋อยไปตามๆกัน
“พาเราไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์แจ้งก่อนก็ได้ค่ะพี่นี ไหนๆก็มาแล้ว” มยุรีพูด

จันทนีย์ไม่พูดอะไรพาจีรนันท์กับมยุรีขึ้นไปบนเรือน ขณะนั้นอาจารย์แจ้งกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้โยก ทั้งสามสาวถอดรองเท้าส้นสูงแล้วเดินไปนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าอาจารย์

“อาจารย์ อาจารย์แจ้งคะ” จันทนีย์ร้องเรียก

ชายวัยสี่สิบกว่าลุกขึ้นนั่ง เขาแต่งตัวแบบผู้วิเศษ นุ่งขาว ห่มขาว รูปร่างอ้วนท้วนสาบูรณ์ ชายผู้นี่แหละที่ทุกคนยกย่องว่าเป็นอาจารย์แจ้งจอมขมังเวทย์ เชี่ยวชาญอวิชาคาถาสารพัด ทั้งทำเสน่ห์ยาแฝด ไล่ผี เสกหนังควายเข้าท้อง ลงอักขระให้อยู่ยงคงกระพัน ชาวบ้านทั้งเลื่อมใสทั้งเกรงกลัว แต่ที่จริงแล้วอาจารย์แจ้งเป็นนักต้มตุ๋นชั้นแนวหน้า มีวิธีหากินที่พิสดารแหวกแนวที่สุด เขาไม่ได้เรียนจบสูงส่งอะไร ไม่เคยบวชเรียนด้วยซ้ำ อาจารย์แจ้งเป็นเพียงคนชนบทธรรมดา ที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพ แต่ไม่สามารถหางานที่พอใจได้ แต่เนื่องจากเป็นคนฉลาดจึงผันตัวมาเป็นหมอผีหมอเสน่ห์ หากินกับความงมงายของชาวบ้าน ผู้หญิงคนไหนไม่สวยก็ถูกหลอกเอาเงิน แต่ถ้าคนไหนสวยหน่อย ก็จะต้องเสียทั้งเงินและเสียทั้งตัว แถมยังถูกเขาข่มขู่ไม่กล้าไปแจ้งความอีกด้วย

“อ้าว คุณนาย เชิญครับ” อาจารย์แจ้งร้องทักลุกจากเก้าอี้โยก เชื้อเชิญแขกผู้มีเกียรติเข้าไปนั่งในห้องโถง

“ดิฉันพาเพื่อนสองคนมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์ค่ะ” จันทนีย์เอ่ยปากอย่างนอบน้อม
“เรามีเรื่องจะให้อาจารย์ช่วยด้วยค่ะ” มยุรีพูด

อาจารย์แจ้งมองดูสาวสวยทั้งคู่อย่างพออกพอใจ จันทนีย์สวมแหวนเพชรลูกเบ้อเริ่มประกายวูบวาบบาดตา ส่วนมยุรีก็สวมล็อคเก็ตเพชรดูแล้วราคาคงเป็นแสน ผู้หญิงสวยสองคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีแน่ๆ

อาจารย์กระแอมเบาๆ พยายามวางท่าให้น่าเลื่อมใส แล้วกล่าวว่า
“เล่าความประสงค์ของพวกคุณมาให้ผมฟังซิ ผมจะได้เตรียมทำพิธีให้ แต่วันนี้ไม่ได้นะ เพราะเป็นวันพระ ผมจะทำพิธีให้วันพรุ่งนี้”
มยุรีพูดอย่างอ่อนหวาน
“ปัญหาของดิฉันเป็นเรื่องครอบครัวค่ะ”
“คงเป็นเรื่องสามีกระมัง”
“ค่ะ คือดิฉันกับพี่จีรนันท์ คนนี้อยู่บ้านเดียวกัน สามีของเราเป็นพี่น้องกันค่ะ หมู่นี้พวกเขาไม่ค่อยกลับบ้าน ดิฉันคิดว่าอย่างไรเสียคงจะแอบไปมีเมียน้อย หรือมีนางบำเรอแน่ๆ ดิฉันจึงขอให้พี่จันทนีย์พามาหาอาจารย์”

“คุณอยากให้ผมช่วยไล่ตะเพิดเมียน้อยล่ะซิ”
“ใช่ค่ะ ดิฉันอยากให้อาจารย์ช่วยกำจัดเมียน้อยให้พ้นๆไป แล้วก็ เอ้อ...” มยุรีหยุดพูด ยิ้มเอียงอาย แก้มแดงระเรื่อ
“พูดมาเถอะ ไม่ต้องอาย อยากให้ผมเสกพรมเข้าท้องนังผู้หญิงสองคนนั่นรึไง”
มยุรีสะดุ้ง
“เอ้อ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ดิฉันอยากให้ เอ้อ... อยากให้อาจารย์ช่วยทำให้สามีรักเราน่ะค่ะ เอาแบบให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยยิ่งดี”
อาจารย์แจ้งหัวเราะ
“ไม่ยากเลย ผมจะเตรียมเครื่องมือทำพิธีไว้ พรุ่งนี้พอพวกคุณมา ผมจะลัดคิวทำให้เป็นคิวแรก”
จีรนันท์ยิ้มหวาน
“ลูกศิษย์อาจารย์เยอะขนาดต้องเข้าคิวเลยหรือคะ”
“บ๊ะ แล้วกันไม่ใช่ว่าผมคุยโวนะ บางวันคนมารอทำพิธีเยอะจนหางแถวไปถึงถนนใหญ่โน่น น้ำมนต์ที่ผมใช้ในแต่ละวันนี่ไม่ต่ำกว่ายี่สิบตุ่ม เอ้อ แต่ผมต้องถามก่อนว่าพวกคุณเลื่อมใสในทางไสยศาสตร์หรือเปล่า เพราะถ้าพวกคุณถือตัวไม่เลื่อมใส ผมแนะนำว่าอย่าทำเลยไม่มีประโยชน์”
“เลื่อมใสซิคะ ไม่เลื่อมใสจะมาหาอาจารย์ทำไม” จีรนันท์รีบพูด
อาจารย์แจ้งซ่อนยิ้มไว้ในหน้า
“แต่คุณคงไม่รู้ว่า ต้องทำยังไงบ้าง ผมต้องบอกไว้ก่อน ทำเสน่ห์ให้ผัวรักนั้น ผมต้องลงขระ ลูบไล้น้ำมันจันทร์ให้ทั่วทั้งตัวพวกคุณเลยทีเดียว ซึ่งถ้าคุณเลื่อมใสเชื่อในความบริสุทธิ์ของผมมันก็จะได้ผลตามความมุ่งหมาย แต่ถ้าพวกคุณไม่เลื่อมใสคิดว่าผมหลอกลวงเอากำไรจากการถูกเนื้อต้องตัวพวกคุณ ผมก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้”

สองสาวทำหน้าชอบกล จีรนันท์หันมากระซิบถามจันทนีย์
“อาจารย์หมายความว่ายังไงคะพี่นี”
“นันกับรี ต้องเปลื้องเสื้อผ้าออกหมด ให้อาจารย์แจ้งลงอักขระน้ำมันให้น่ะซิ”
“อุ๊ยตาย” มยุรีกับจันทนีย์อุทานออกมาพร้อมๆกัน
“อย่างงั้นเราก็โป๊แย่น่ะซิคะ ของสงวนพวกเราอาจารย์ก็เห็นหมดเลย” มยุรีร้อง แก้มแดงระเรื่อ
“ปัทโธ่” อาจารย์แจ้งแกล้งทำเป็นโกรธ “ถ้าพวกคุณถือตัวก็อย่ามาให้ผมทำพิธีเลยครับ ถามคุณนายจันทนีย์ดูก็ได้ว่า ทั้งคุณนายและใครๆที่มาทำเสน่ห์ให้ผัวหลงก็ต้องเปลื้องผ้าให้ผมลงอักขระกัน ทั้งนั้น”
จันทนีย์พยักหน้า
“ใช่จ้ะ อย่าอายไปเลย อาจารย์ทำพิธีกับลูกศิษย์สาวๆมาเยอะแล้ว แกไม่คิดอะไรหรอก”
มยุรีกัดฟัน
“โอเคค่ะ ตกลง เป็นไงเป็นกัน”
อาจารย์แจ้งหัวเราะ
“อย่ากังวลไปเลยคุณนาย ผมรับประกัน ถ้าไม่สำเร็จอย่าเรียกผมว่าอาจารย์แจ้งเลย เรียกไอ้เหี้ยแจ้งยังได้ หรือจะมายืนชี้หน้าด่าผมที่หน้าบ้านผมทั้งวันทั้งคืนเลยก็เอา”
จีรนันท์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ เราศรัทธาอาจารย์ค่ะ ยินดีทำทุกอย่างตามที่อาจารย์สั่ง”
“ดีครับ งั้นพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า พวกคุณมาที่นี่ ผมจะเตรียมทำพิธีให้พวกคุณก่อนเลย”
“ตกลงค่ะอาจารย์”
สองสาวไหว้อาจารย์อย่างนอบน้อม อาจารย์แจ้งเดินมาส่งสองสาวถึงรถ
“พี่นีไม่กลับพร้อมกันหรือคะ”
“นันกับรีกลับไปก่อนเถอะ พี่จะให้อาจารย์ดูดวงซะหน่อย”

สองสาวพยักหน้า อาจารย์แจ้งก็นึกกระหยิ่มอยู่ในใจ ถ้าเขาฟันจีรนันท์กับมยุรีได้สำเร็จ สองสาวก็จะต้องเอาเงินมาประเคนให้เขา อาจารย์แจ้งติดใจในความงามของสองสาวนัก จีรนันท์นั้นสวยสง่า ส่วนมยุรีก็สวยกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก ถ้าได้นอนกับสองคนนี้คงจะสุขยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ชั้นไหนๆ

พอรถของจีรนันท์แล่นออกไป พรานโลกีย์ก็หันมาแสยะยิ้มให้จันทนีย์ แล้วโอบเอวเธอพาเดินกลับไปในบ้าน...

สองพี่น้อง ตอน หมอพร่าสวาท 3

3

“อาจารย์ ชอบเพื่อนหนูสองคนนี้ไม๊คะ”
“เออ ชอบ มึงทำดีมากอีจันทนีย์”
“งั้นอาจารย์ก็ยอมปล่อยหนูแล้วซิ”
“ยัง กูยังติดใจหม้อมึงอยู่”
“เอ๊ะ อาจารย์สัญญากับหนูแล้วนี่ ถ้าพาเพื่อนสวยๆมาให้สองคน อาจารย์จะปล่อยหนูไป”
“นี่มึงกล้าเถียงกับกูหรือ อีจันทนีย์ อยากโดนเฆี่ยนเหมือนคราวที่แล้วหรือไง”
สาวงามหน้าซีดทันที ท่าทางของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าหวาดกลัวอาจารย์แจ้งมาก
อาจารย์แจ้งก้มลงจูบแก้มนวลของเธอ
“เอาเหอะน่า กูขอเอามึงต่ออีกสักเดือน ถ้ามึงทำตัวดีก็จะปล่อยมึงไป นึกเสียว่าตอบแทนบุญคุณที่กูช่วยทำให้ผัวมึงกกลับมาละกัน”
จันทนีย์ฝืนยิ้มออกมา
“ค่ะ อาจารย์ หนูจะทำให้อาจารย์มีความสุขที่สุด”
อาจารย์แจ้งหัวเราะลั่น
“ต้องอย่างนี้ซิวะ ไปห้องนอนกูดีกว่า ไหนๆก็มาแล้ว”

อาจารย์แจ้งพาคุณนายคนสวยของนักธุรกิจใหญ่เดินขึ้นไปข้างบน เปิดประตูเข้าไป แล้วลงไปนั่งบนเตียง
“ถอดเสื้อออก” อาจารย์แจ้งสั่งสั้นๆ

จันทนีย์ทำตามอย่างไม่อิดเอื้อน พอเสื้อและยกทรงหลุดออกไป สองเต้าขาวสล้าง หัวนมสีน้ำตาลอ่อนๆก็โชว์ออกมาต่อหน้าสายตาหื่นๆของอาจารย์แจ้ง
“มาถอดกางเกงกูออกด้วย”
อาจารย์แจ้งพูดแล้วลุกขึ้นยืน จันทนีย์เดินอกกระเพื่อมไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้า แล้วปลดกางเกงอาจารย์หื่นออก
“อุ๊ย อาจารย์คะ มันแข็งมากเลย” จันทนีย์อุทานเมื่อเห็นมันกำลังตื่นตัว ชูหัวน้ำลายยืดอย่างน่ากลัว
“มันได้กลิ่นหี ก็เลยอยากมุดเข้ารูมึงน่ะซิ” อาจารย์แจ้งพูดยิ้มๆ
“อาจารย์” จันทนีย์อุทานหน้าแดงด้วยความอายที่อาจารย์พูดมาอย่างไม่เกรงใจ
“ดูดควยกูซักทีซิ อีนี่ มองอยู่ได้”
“ค่ะ”
จันทนีย์รับคำเสียงสั่นๆคลานหมอบสี่ขา เอื้อมหน้าไปอมดูดควยของอาจารย์แจ้งเอาไว้ในปากจนสุดลำ มือของอาจารย์วัยสี่สิบเศษ ก็เอื้อมไปถลกกระโปรงของเธอขึ้นมา ลูบเป้ากางใน แล้วสอดมือไปในขอบกางเกง แยงนิ้วเข้าไปในร่องหีของสาวสวย จนเธอเสียวสยิว ต้องแอ่นก้นไปมา
“อุ๊ย อาจารย์คะ หนู...หนู..เสียวค่ะ”
“ไหนแก้ผ้ามาให้ดูชัดๆหน่อยซิ”
“ได้ค่ะ”
จันทนีย์รับคำเบาๆ ลุกขึ้นถอดกระโปรงกางเกงในออกจนล่อนจ้อน แล้วก้าวขึ้นไปบนเตียงยืนคล่อมหน้าของอาจารย์แจ้งไว้
“อูยยย อีนี่ยั่วควยกูดีจัง นั่งลงมาซิ”
สาวงามหน้าร้อนวูบวาบด้วยความอาย หย่อนก้นลงมาช้าๆ เห็นสายตาของอาจารย์แจ้งที่มองหม้อเธออย่างตื่นเต้น
“อาจารย์” เธอเรียกเบาๆ

อาจารย์แจ้งเอาสองมือแย้มอ้าปากถ้ำอันใหญ่โตของจันทนีย์ ลิ้นของเขาฉกเลียลงไปในร่อง จันทนีย์ยอมรับว่าอาจารย์แจ้งใช้ลิ้นได้ดีเยี่ยม เก่งกว่าสามีของเธอไม่รู้กี่เท่า เธอเสียวจนส่ายเอว ขยี้ใส่ใบหน้าเขาไปมาอย่างลืมตัว
“อูววว อาจารย์ขา หนูไม่ไหวแล้วค่ะ เสียวเหลือเกิน”
“อยากโดนเย็ดแล้วล่ะซิ”
“เอ้อ..ค่ะ”
“แบบเก่านะ”

จันทนีย์หน้าเผือดลง คำว่าแบบเก่า นั่นหมายถึงประตูหลังของเธอ เพราะอาจารย์แจ้งแกมีรสนิยมแปลกๆ ชอบเอาประตูหลังซึ่งตอนแรกเธอเจ็บแสนเจ็บ แต่ตอนหลังเธอเริ่มชิน จึงพอมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อยากทำอยู่ดี แต่จันทนีย์ไม่กล้าขัดใจอาจารย์แจ้งแม้แต่น้อย พอเขาสั่ง เธอก็เปลี่ยนมาเป็นท่าหมอบคลานโก้งโค้ง โดยเอาหมอนหนุนหัว ปลอกหมอนสีฟ้าทั้งสองใบหนุนหน้าอกอวบๆของเธอไว้
“เบาๆก่อนนะคะ อาจารย์” จันทนีย์เอ่ย

สาวสวยหมอบนิ่ง ตัวสั่น ใจเต้นระทึก อาจารย์แจ้งเอามือกำรูดควยของตนเองอย่างแรงและเร็ว ปากเขายิ้มแสยะตรงมุมปาก คล้ายพึงพอใจกับอาการตื่นกลัวของจันทนีย์ ทุกครั้งที่พรานโลกีย์เห็นคุณหญิง คุณนาย ผู้ดีมีฐานะตื่นกลัวในอำนาจของเขา เขาจะมีความสุขเป็นพิเศษ เพราะอาจารย์แจ้งเก็บกดจากตอนเข้ามากรุงเทพใหม่ๆ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ พนักงานสวยๆบางทียังมองเขาด้วยแววตาดูถูก ดังนั้นพอมีโอกาสเขาเลยชอบแสดงอำนาจต่อผู้หญิงสวยๆรวยๆ ยิ่งบังคับให้สาวผู้ดีแสดงตัณหาที่เก็บซ่อนไว้ออกมาแบบไร้ยางอายได้ยิ่ง ตื่นเต้น โดยเฉพาะสาวสวยอย่างจันทนีย์ยิ่งเร้าใจเขามากเป็นพิเศษ เขาติดใจเธอถึงกับยอมเสียคำพูดไม่ปล่อยเธอเป็นอิสระตามที่รับปากไว้

อาจารย์แจ้งเอามือป้ายร่องหีของจันทนีย์ เอาน้ำเมือกลื่นๆมาป้ายต่อที่ร่องก้นของจันทนีย์ จนมันลื่นและเปียกแฉะ ส่วนหนึ่งเขาก็เอามาป้ายท่อนเนื้อของเขา จันทนีย์เองเอาสองมือเอื้อมไปอ้าแก้มก้นของตนเองเอาไว้ให้อ้า จนอาจารย์แจ้งแลเห็นร่องก้นชัดเจน หูรูดของก้นนั้นขมิบเป็นจังหวะๆ เขาเอาท่อนเนื้อกดลงไปอย่างช้าๆ
“โอยย อาจารย์ขา หนูเจ็บตูดจังเลยค่ะ”
“อ้า กว้างๆไว้ เอามืออ้าออกไปอีก” อาจารย์แจ้งบอก
“ค่ะ อาจารย์ โอยย”
“อูยย มันส์ชิบหายเลย อูยยย”
“เบา เบา ค่ะ อาจารย์ เบา เบาๆๆ โอยย อูยยย”
จากเสียงร้องครวญครางกลายมาเป็นเสียงเนื้อกระทบกันดังพั่บๆตลอดเวลา อาจารย์แจ้งโหมกระแทกอัดตูดจนร่างอวบอัดขาวผ่องของสาวไฮโซกระเพื่อมไปมา สองเต้าเต่งใหญ่ขนาด 38 แกว่งไกวไปตามแรงโยกคลอนของพรานโลกีย์
“จันทนีย์”
“ขา”
“มันส์ไหมจ๊ะ”
“ค่ะ อูยย มันส์ค่ะ แต่..อย่าแรงมาก โอยย” จันทนีย์กัดฟันตอบ
“ไม่ไหวแล้ว อีจันทนีย์ กู กู อะ..อะ...ออก”
“อูยยย ออกมาเลยค่ะ อาจารย์ขา ออกมาเร็วๆ โอยย อูยยย” จันทนีย์เร่งเสียงกระเส่า
“โอ๊ยย อีจันทนีย์ รูตูดมึงนี้สุดยอด เย็ดมันจังเลย โอ๊ย...น้ำแตกแล้ววว..ซี๊ดดด” อาจารย์แจ้งร้องคำราม ก่อนที่จะทิ้งร่างลงฟุบกับแผ่นหลังของจันทนีย์ สักพักควยของเขาเริ่มอ่อนตัวและหดไหลออกมา พร้อมหล่อลื่นจากร่องก้นของสาวใหญ่
“แต่งตัวแล้วกลับไปได้แล้ว” อาจารย์แจ้งตัวเบาแล้วก็ไล่เธอกลับ
“ค่ะ” จันทนีย์รับคำอย่างนอบน้อม

“กลับแล้วหรือครับคุณนาย” ไอ้ยง มองคุณนายคนสวยซึ่งเดินลงมาจากเรือนของอาจารย์
“จ้ะ”
“ผมไปเปิดประตูให้นะครับ”
“ขอบใจ”
ไอ้ยงเดินตามหลัง ดูสะโพกดูก้นอวบใหญ่ของจันทนีย์สะบัดไปมา ก็ควยลุกด้วยความหื่น นึกอิจฉาอาจารย์ได้ฟาดสาวสวยหุ่นน่าเย็ดขนาดนี้ จันทนีย์กดรีโมทคลายล็อค ไอ้ยงก็ตามไปเปิดประตูรถให้ แล้วเดินไปเปิดประตูรั้ว จันทนีย์ขับรถแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว

ตะวันคล้อยต่ำ ค่ำคืนได้คลืบคลานเข้ามาแทนที่ จันทนีย์เช็ดตัวจนแห้งเอาน้ำหอมราคาแพงมาฉีดพรมทั่วร่าง แม้แต่ในที่ลับ จันทนีย์ลืมไปว่าบัญชาสามีเธอไม่ยอมลงไปดมหรือเลียให้เธอเด็ดขาด เพราะเขาถือในเรื่องนี้
“หายไปไหนมาจนค่ำล่ะนี” บัญชาเอ่ยถามขณะพลิกตัวตะแคงอยู่บนเตียง
“ไปหาน้องนันกับน้องรีมาน่ะค่ะ” จันทนีย์บอก
“พี่คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว ไม่คิดถึงพี่เลยรึไง”
“อะไรกันคะ ก็เจอกันทุกวันอยู่แล้ว”
“ก็ผัวอยากอยู่กับเมียตลอดเวลานี่ ยิ่งเจ้านี่ยิ่งคิดถึงเมียตลอดเลยนะ” บัญชาเอ่ยบอกพลางเอามือของจันทนีย์มากำดุ้นเอ็นของเขาไว้

จันทนีย์เสียววูบวาบจนรู้สึกได้ว่าจิ๋มแฉะร้อนผ่าวเลย เพราะขนาดของบัญชานั่นมันน้องๆม้านั่นเอง ขนาดพอๆกับลูกมะระใบเขื่องๆ บัญชาเอามือลูบแผงเนินหีของภรรยาคนสวย เข้าๆออกๆ เรื่องการใช้นิ้วสะกิดแยงนี่ จันทนีย์ยอมรับว่าเขาทำได้ดีกว่าใครๆ เพราะมันสยิวในอารมณ์มากนัก
“บัญชา พอเถอะ ฉันอยากแล้วนะ”
“งั้นเอาเลย” บัญชารีบถอดกางเกงออก แต่ต้องล้มหงายลงเพราะมือจันทนีย์
“เดี๋ยวก่อน นอนลงเฉยๆ”

จันทนีย์เลื่อนร่างลงไป แล้วเอามือกระทอกของผัวเล่นไปมา แล้วอ้าปากอมดูดส่วนหัวอย่าช้าๆ ลิ้นของจันทนีย์เลียไปรอบหัวพองบานนั้น อ้าปากอม แล้วดูดแบบแผ่วๆ เลื่อนปากเข้าไปนิดหนึ่ง ก่อนที่จะขยับออกมา จนบัญชาสยิวน้ำแทบแตก
“นี คุณเก่งจังเลย ไปเรียนมาจากไหน” บัญชาถาม
“หนังวีดีโอไงเล่า เยอะแยะไป” จันทนีย์เอ่ยบอกแบบปิดบังเขาไว้ แต่ที่จริงเธอเรียนมาจากอาจารย์แจ้งนั่นเอง
“อูยยย ผมเสียวจะกระฉูดอยู่แล้ว” เสียงบัญชาเอ่ยบอก
“อย่าเพิ่งนะชา เพิ่งเดี๋ยวเดียวเอง” จันทนีย์เอ่ยบอก พลางตลบชุดนอน เอาขมวดมาอยู่ที่เอวแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมร่างของผัวรักไว้ มือของสาวสวยคว้าเอาควยของเขาที่แข็งปานท่อนไม้เอาไว้ แล้วกำถูไถไปมากับร่องผ่าของตัวเองไปๆมาๆ

จันทนีย์ยอมรับว่าเธอรักบัญชามาก ถึงกับยอมไปทำเสน่ห์กับอาจารย์แจ้งเพื่อให้เขารักเธอคนเดียว เธอตั้งใจจะทำให้เขามีความสุขมากที่สุด สาวสวยอ้าถ่างขาแบะกว้างออกไป รู้สึกเสียวมากจนหลับตาปี๋เลย น้ำหล่อลื่นพรั่งพรูออกมาเปียกแฉะ เจิ่งนองเนินฐานไปหมด

“ยัดมันเข้าไปเถอะนี อย่าทรมานผมเลย” บัญชาเอ่ยบอกพลางเอามือ กำบีบสองเต้าใหญ่ของจันทนีย์เมียแสนสวย พลางเอานิ้วบี้หัวนมจนมันแข็งตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน

“อูยยย บัญชา อย่าบี้แบบนั้น มันเสียวนะ” จันทนีย์เอ่ยบอก พลางเอานิ้วคลึงท่อนหัวไปมา ก่อนจะเอามาจ่อให้ตรงปากร่อง หย่อนเอวกดลงไป

สาวใหญ่รู้สึกว่ามันคับตื้อแน่น จนต้องผงะร่างสะดุ้งนิดหน่อย พร้อมยกร่างชักกลับขึ้นก่อนที่จะกดลงไปใหม่อีกครั้ง จันทนีย์รู้สึกคับแน่นมากเลย แต่น้ำหล่อลื่นของเธอช่วยได้มากในการพยุงให้ควยของผัวรักซึ่งมีขนาดอ้วนของ ลำกว่าหกนิ้วมุดเข้าไปในร่องบ่ออย่างช้าๆ จันทนีย์รู้สึกว่ามันเคลื่อนตัวเข้าไป ความคับแน่นของมันทำให้สาวสวยต้องขมิบหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งมันยันปากมดลูกเธอจนเสียวแปล๊บ

“อูยย บัญชา แน่นจังเลย ฉัน ฉัน ..อูยย”
จันทนีย์เอ่ยบอก พลางทิ้งร่างกดลงแนบแน่น เอาสองมือยันท้องน้อยของบัญชาเอาไว้ แล้วเริ่มโยกคลึงไปมา
“นี นี คุณสาวเข้าออกซิ” บัญชาเอ่ยบอก
“ค่ะ ชา อูยย โอ๊ย อูยย...อูยยย”
พั่บ พั่บ พั่บ เสียงร้องสลับเสียงกระทบของเนื้อกับโหนกดังลั่น จันทนีย์สาวเข้าออกอย่างสุดๆ ดึงจนเกลือบหลุดจากปากถ้ำ แล้วทิ้งตัวกระแทกเข้าไปใหม่แบบรุนแรงมาก พอกดลงสุดแล้ว จันทนีย์ก็ส่ายเอวคลึงไปมา จนบัญชาผู้เป็นผัวเริ่มแอนเอวเด้งสู้เข้าบ้าง

“ดีจ้ะชา ดี อูยย มันส์จังเลย ผัวขา”
“อูยย หีคุณฟิตแน่นจังเลย”
“โอ้วว..ซี๊ดด..ผัวขา...เมียเสียวจัง อูยยย”
“เร็วเข้านี ผมจวนจะออกแล้ว”
“อย่าเพิ่งนะ อย่าเพิ่งออกนะ อูยยย เสียวว” จันทนีย์ครางเสียงกระเส่า
“โอย เมียจ๋า ผัวจะกระฉูดแล้ว แรงๆหน่อย แรงๆหน่อย”
บัญชาเอ่ยบอกพลางผงกหัวขึ้นมาดูดนมสาวสวย สลับด้านไปมา เสียงดังจ๊วบ
“ชา ชา ฉันจวน จวนแล้ว”
“ดี ดี...โอย..ของคุณยังตอดดีเหลือเกิน”
“ชา..ชา...โอย ฉันออกแล้ว”
“นี...ผม.ก็ จะ..ออกแล้ว..ออกแล้ว...นี โอ๊ยยยย”
เสียงบัญชาระล่ำระลัก พลางเกร็งร่างกระตุกอย่างรุนแรง จันทนีย์รู้สึกว่าทำนบของผัวรักนั้นฉีดเข้ามาอย่างรุนแรงมากจนเสียววาบไป ทั่วท้องน้อยเลย จันทนีย์ซบหน้าลงบนแผ่นอกของบัญชาพลางดูดปากแนบแน่นสนิท กดแช่แนบโคกสวาทกดกับลำเอ็นของผัวแนบแน่น โคกหีของสาวสวยเปรอะเปื้อนด้วยฟองขาวจากน้ำหล่อลื่นของทั้งสองคนที่หลั่ง ไหลพรั่งพรูออกมา บัญชาพลิกร่างอวบอัดของจันทนีย์นอนหงาย ก่อนที่จะนอนก่ายกอดกันจนหลับไปทั้งคู่

สองพี่น้อง ตอน หมอพร่าสวาท 4

4

ตอนสายวันรุ่งขึ้น ก่อนเวลา 9.00 น. เล็กน้อย จีรนันท์กับมยุรีก็มาปรกฎตัวอยู่ที่บ้านของอาจารย์แจ้ง ทั้งสองคนแต่งตัวหรูหรา ถือกระเป๋าหนังราคมแพงเหมือนๆกัน สองสาวก้าวลงจากรถแล้วจูงมือเดินมายังเรือน คนของอาจารย์แจ้งมาเชิญจีรนันท์กับมยุรีในฐานะแขกผู้มีเกียรติและมีสิทธิ พิเศษ

จีรนันท์กับมยุรีรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ที่ใครต่อใครพากันดูหล่อนไม่วางตา สองสาวถอดรองเท้าส้นสูงไว้ที่บันไดบ้านแล้วเข้าไปในห้องกลาง เผชิญหน้ากับท่านอาจารย์พอดี ลูกศิษย์กับท่านอาจารย์ยกมือไหว้ทำความเคารพซึ่งกันและกัน

“เชิญสิขอรับ” อาจารย์จอมเจ้าเล่ห์พูดอย่างนอบน้อม “เชิญข้างบนเถอะครับ ผมเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว”
จีรนันท์ยิ้มอ่อนหวาน
“ขอบคุณมากเชียวค่ะ ดิฉันมาตรงตามเวลาที่อาจารย์นัดใช่ไหมคะ”
“ครับ ตรงพอดี”

พรานโลกีย์พาลูกศิษย์สาวแสนสวยขึ้นบันไดชั้นบน และตรงเข้าไปในห้องพิธี เขาเชิญให้จีรนันท์และมยุรีนั่งลงบนพรมปูพื้น แล้วอาจารย์ก็เดินไปปิดประตูแต่ไม่ได้ใส่กลอน

อาจารย์กลับมานั่งลงข้างสาวสวยทั้งสอง กลิ่นน้ำหอมจากร่างของจีรนันท์กับมยุรียั่วอารมณ์อาจารย์จอมเจ้าเล่ห์ยิ่ง นัก เขาได้วางแผนการไว้แล้วเป็นชั้นๆ

บรรยากาศในห้องพิธีเงียบสงบ สองสาวต่างแลเห็นโต๊ะบูชาขนาดใหญ่ บนโต๊ะเต็มไปด้วยดอกไม้ธูปเทียน วางไว้โดยไม่มีระเบียบเรียบร้อย มีเทวรูปเจ้าแม่กาลี และ ศีรษะฤาษีตาไฟแบบหัวโขน หัวกะโหลกมนุษย์ซึ่งดูไม่ออกว่าของจริงหรือของปลอม บาตรใส่น้ำมนต์และอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับพิธีไสยศาสตร์มากมาย

สองสาวรู้สึกใจเต้นระทึกชอบกล
“วันนี้อาจารย์จะทำยังไงบ้างคะ”
“วันนี้หรือครับ ก่อนอื่นผมก็จะลงอักขระให้ที่ทรวงอกของคุณทั้งสอง”
“อุ๊ยตาย” มยุรีอุทาน “จั๊กกระจี้แย่ ดิฉันยิ่งเป็นคนขี้จั๊กกะจี้อยู่ด้วย ..เอ้อ หมายความว่า อาจารย์จะสักหน้าอกของเราใช่ไหมคะ”
“ถูกแล้วครับ ผมจะสักคาถามหาละลวยลงไป แต่การสักใช้น้ำมันสักนะครับ สักแล้วมองไม่เห็นรอยสัก”
มยุรีถอนหายใจโล่งอก
“หรือคะ ถ้ายังงั้นค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าสักด้วยหมึกละก็ดิฉันแย่ทีเดียว สามีดิฉันต้องหาว่าดิฉันเป็นพวกยากูซ่าอะไรโน่นแน่ๆ”
อาจารย์เจ้าเล่ห์ซ่อนยิ้มไว้ในหน้า
“การสักคุณจะต้องเปลื้องเสื้อออก”
จีรนันท์ยิ้มเจื่อนๆ
“ท่านอาจารย์ก็เห็นส่วนที่ดิฉันไม่อยากให้ใครเห็นน่ะซิคะ”
อาจารย์เห็นสาวสวยหน้าแดงน่ารัก ก็หัวเราะ
“นามรูปปังสุขัง นามรูปังอนิจจา อันว่าสังขารทั้งหลายย่อมไม่เที่ยงแท้ ผมปลงตกเสียแล้วครับ เห็นมามากต่อมาก เหมือนกับนายแพทย์ที่เคยพบเห็นบ่อยๆ”

จีรนันท์หันมาปรึกษากับน้องสะใภ้
“ว่าไงจ๊ะรี พี่จั๊กกระจี้ใจอย่างไรชอบกล ทีเราต้องมาถอดเสื้อถอดแสงเนื้อตัวล่อนจ้อน”
มยุรีถอนหายใจหนักๆ
“รีปลงตกค่ะ ของๆเราไม่ให้ใครใครก็เอาของเราไปไม่ได้ ท่านอาจารย์ท่านไม่ได้มีจิตใจอกุศลหรอกค่ะ แลวถ้าขืนทำตัวเป็นนักฉวยโอกาสก็เจอข้อหาอนาจาร ติดคุกเท่านั้นเอง”
อาจารย์สะดุ้งโหยง
“ผมมีลูกศิษย์ลูกหาทั่วทั้งเมือง ทำอย่างนั้นได้หรือครับ อ้า...เวลาให้ผมจุดธูปเทียนบูชาเทวดาสักประเดี๋ยวนะครับ”
จีรนันท์ว่า
“เชิญตามสบายเถอะค่ะ”
แล้วเธอก็สะดุ้งโหยงเมื่อเห็นมยุรีขยับจะถอดเสื้อชั้นนอก “เดี๋ยวอย่าเพิ่งถอดซิคะ ให้อาจารย์สั่งเสียก่อนซิน้องรี”
อาจารย์แจ้งหันมาพูดเบาๆ
“ถอดเดี๋ยวนี้ก็ได้ครับ ผมไม่ถือหรอก ถอดแล้วไปนอนเคียงกันบนเสื่อนั่น”
อาจารย์แจ้งชี้ไปที่เสื่อน้ำมันผืนใหญ่ที่วางปูอยู่กลางห้อง

ภายในห้องเงียบสงัด อาจารย์เริ่มพิธีของเขาแล้วซึ่งเป็นพิธีแบบเฮงซวยปราศจากหลักวิชา คือทำอย่างส่งเดช ด้วยความประสงค์ที่จะหลอกเอาเงิน หรือทำลายผู้หญิงที่ตกเข้ามาเป็นเหยื่อของเขาด้วย

มยุรีกับจีรนันท์เห็นอาจารย์แจ้งหันหลังไปที่โต๊ะบูชาเพื่อจุดธูปเทียน จึงค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก จนกระทั่งเหลือแต่ยกทรงกับกางเกงในก็หันมามองหน้ากัน ต่างหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย แล้วจีรนันท์ก็พยักหน้าให้น้องผัว ทั้งคู่จึงตัดใจถอดทั้งยกทรงและกางเกงในออกแล้วไปนอนใจเต้นระทึกอยู่บน เสื่อน้ำมัน

อาจารย์แจ้งจุดธูปเทียนถึงห้าดอก กลิ่นหอมลอยตลบอบอวลไปทั้งห้อง อาจารย์แจ้งยิ้มกริ่มรู้ว่าแผนของเขาสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว ยังไงสองสาวก็ไม่มีทางรอดพ้นมือเขาไปได้ เพราะธูปเทียนนี้ อาจารย์แจ้งจัดทำเป็นพิเศษด้วยตนเอง มันผสมยาปลุกเซ็กส์เอาไว้ หากผู้หญิงคนไหนสูดดมไปได้ไม่นานก็จะกระตุ้นอารมณ์ใคร่ในร่างกายขึ้นมา และต้องยอมเป็นของเขาทุกรายไป

พออาจารย์แจ้งหันกลับมาก็ตาค้างใจเต้นระทึก สองสาวนอนหลับตาพริ้ม ร่างกายเปล่าเปลือยล่อนจ้อนขาวโพลนไปทั้งตัว

อาจารย์แจ้งใจเต้นตูมๆพูดเสียงสั่น
“เดี๋ยวผมจะลงน้ำมันให้ก่อน ทั้งสองคนหลับตาแล้วนึกถึงหน้าสามีเอาไว้ตลอดนะ พอผมลูบไล้ไปทั่วๆตัว พวกคุณต้องตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้สามีรัก สามีหลง คิดซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้จนกว่าผมจะลงน้ำมันเสร็จ เข้าใจไม๊”
“ค่ะ อาจารย์” สองสาวรับคำ
“จะให้ผมทำให้ใครก่อนดี” อาจารย์แจ้งถามยิ้มๆ สายตาลามกกวาดมองสำรวจไปที่ร่างเปลือยของทั้งสองสาวซึ่งนอนหลับตาพริ้ม แต่ทั้งคู่เอามือบังหว่างขาของตัวเองไว้ทำให้อาจารย์แจ้งยังไม่เห็น โคกหีของทั้งคู่ แต่แค่ผิวพรรณที่ขาวอมชมพูนวลเนียนแบบผู้ดีก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อาจารย์ แจ้งควยแข็งปั๋งอยากเย็ดสาวไฮโซเต็มที

ทั้งสองสาวได้ยินคำถามของอาจารย์แจ้งอึกอัก ไม่มีใครกล้าพูดเพราะอาย จีรนันท์เผยอตาขึ้นมองนิดนึง พอเห็นอาจารย์แจ้งมองมาที่โคกหีของตัวเองก็อาย รีบพูดว่า
“ทำให้น้องรีก่อนก็แล้วกันค่ะ อาจารย์”
“ก็ได้”
อาจารย์แจ้งยิ้มกริ่ม หยิบขวดน้ำมันเทลงไปในขันจนเกือบเต็ม แล้วเดินมาที่ข้างกายของมยุรี
“อธิษฐานตามที่ผมบอกไว้นะ ผมจะเริ่มพิธีแล้ว”
“ค่ะ” มยุรีรับคำใจเต้นระทึกจนอกกระเพื่อม เธอเริ่มนึกถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของนราวุธแล้วอธิษฐานขอให้เขารักและหลงเธอมากๆ

อาจารย์แจ้งตาลุกวาว นึกชมทรวงอกของมยุรี
“ขาวเนียนจริงๆเลย อีหนูเอ๊ย”
อาจารย์แจ้งคิดในใจ เขาเทน้ำมันไปทั่วๆร่างที่ขาวโพลน เทลงมาที่มือของตัวเองจนชุ่มแล้วเริ่มลูบไล้ไปมา เพียงครั้งแรกเขาก็ลูบไปที่ทรวงอกอวบอิ่มที่สะท้อนขึ้นลงก่อนในทันที
“อุ๊ย อาจารย์” มยุรีสยิวกายร้องออกมาเบาๆ
“อธิษฐานไว้หนู อธิษฐานไว้”
อาจารย์แจ้งรีบเตือน มือก็ลูบไล้คลึงเคล้นไปทั่วทั้งสองเต้าอวบหยุ่น
“อูยย นมแข็งเป็นไตจริงๆ”
หัวนมของเธอเริ่มแข็งขึ้นสู้มือ อาจารย์แจ้งลูบไล้ไปมาแล้วก็บีบไปเบาๆ เขามันส์เขี้ยวจนอยากตะโบมให้เต็มแรงแต่กลัวไก่ตื่น จึงวนเวียนลูบไล้ไปทั่วๆ ทั้งไหล่ รักแร้ แขนแล้ววนกลับมาลูบคลึงที่ทรวงอกอีก จากนั้นจึงลูบไล้ต่ำลงมาที่หน้าท้องจนถึงท้องน้อย
“เอามือออกสิคุณ ผมจะลงน้ำมันที่จุดสำคัญแล้ว”

มยุรีที่นอนหน้าแดงหอบหายใจแรง รู้สึกปั่นป่วนสุดฤทธิ์ เธอสูดดมควันธูปปลุกเซ็กส์ไปเป็นเวลานานแถมยังโดนหมอเสน่ห์เจ้าเล่ห์ลูบไล้ ลวนลามไปทั่วเนื้อตัว ก็ทำให้เกิดความสยิว รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นพอได้ยินอาจารย์แจ้งสั่ง จึงเอามือออกอย่างลืมตัว

“อูยยย โคกน่าเย็ดเหลือเกิน”

อาจารย์แจ้งคิดด้วยความเงี่ยน ตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า เอามือจุ่มน้ำมันในขันแล้วเริ่มวางแปะลงไปที่โคกหีของมยุรี มันช่างโหนกนูน อวบอูม เต็มมือดีจริงๆ นุ่มนิ่ม เพราะเส้นหมอยของมยุรีมีเพียงบางๆ แล้วอาจารย์แจ้งก็เอามือลูบไปถูกเนื้อเข้า ขาของเธออ้าออกเล็กน้อยเพราะความเสียว อาจารย์แจ้งใช้นิ้วลากขึ้นลงไปตามร่องที่ฉ่ำเยิ้มไปหมด เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตเขาจึงลากไปมาแค่สองสามครั้งเท่านั้น แล้วก็ตัดใจลูบไล้เลยมาที่ต้นขาอวบขาว แล้วลากไปตามท่อนขาขาวเนียนทั้งสองข้าง ชโลมจนร่างเปลือยของมยุรีเป็นมันวับสะท้อนแสงไฟ

“เอาละ เสร็จไปขั้นนึงแล้ว คุณนอนอธิษฐานไว้ ผมจะไปทำให้คุณจีรนันท์บ้าง”
มยุรีแอบระบายลมหายใจ บอกไม่ถูกว่าโล่งอกหรือเสียดายที่อาจารย์ทิ้งไว้ครึ่งๆกลาง

อาจารย์แจ้งเลื่อนตัวมาที่ข้างๆของจีรนันท์ สำรวจร่างกายของสาวสวยนึกเปรียบเทียบกับมยุรี ทั้งสองหุ่นดีไม่แพ้กันเลย แต่ทรวงอกของจีรนันท์จะใหญ่กว่าน่าเกลือกกลิ้งหรือเอาลำควยเข้าไปถูที่ร่อง อกที่เบียดชิดสนิทแน่น หัวนมเป็นสีชมพูระเรื่อน่าดูด เอวคอดกิ่ว สะโพกผายสล้างยั่วอารมณ์เหลือเกิน
“อธิษฐานไว้นะ คุณ” อาจารย์แจ้งย้ำ

จีรนันท์หลับตาปี๋ เมื่ออาจารย์แจ้งชโลมน้ำมันบนทรวงอกอวบใหญ่ของเธอ มือกุมไปที่ทรวงอกบีบคลึงจนหัวนมแข็งสู้มือ
“อือออ”
จีรนันท์ถึงกับครางออกมาในลำคอ อาจารย์แจ้งแอบหัวเราะในใจ จีรนันท์ดูจะไวไฟกว่ามยุรีเพราะโดนลูบนมไม่กี่ทีก็ครางออกมาแล้ว อาจารย์แจ้งจึงลูบคลึงไปเรื่อย แล้วเลื่อนต่ำลงมา
“เอามือออกครับคุณ”
อาจารย์แจ้งสั่งย้ำ จีรนันท์ยังอึกอักนิดนึง ยังไม่เอามือออกเสียทีเดียว อาจารย์เลยช่วยจับมือเธอออกเสียเอง
“อื้อฮือ”
อาจารย์เจ้าเล่ห์คราง เห็นโคกหีของสาวสวยอวบอูมเป็นพลูดังจาวตาล แถมขนหมอยก็ขึ้นดกดำนุ่มนวลไปทั่วทั้งเนินเนื้อ เขาวางมืออูมๆทาบไปบนเนินเนื้ออ่อนๆ ลูบคลึงคลำไปทั่ว
“อูยยย” จีรนันท์ร้องครางออกมาอีก
“อธิษฐานไว้ อธิษฐานไว้” อาจารย์แจ้งพึมพำ

จีรนันท์พยายามรักษาสมาธิไว้ไม่ให้ว่อกแวก แต่มือของอาจารย์ทำให้เธอปั่นป่วนไปหมด ท่องผิดๆถูกๆ ขาของเธอแยกกว้างอย่างลืมตัว อาจารย์แจ้งจึงถือโอกาสสอดมือล้วงคลึง ลากนิ้วไปหว่างกลางตรงรอยแยกที่ร่องหี ปรากฏว่าของเธอซึมเยิ้มแล้ว อาจารย์แจ้งใช้นิ้วแยงแล้วชักเข้าชักออกจนนิ้วลื่นฉ่ำ เขาจับติ่งขยี้เขี่ยเบาๆ มือของจีรนันท์จับมือของหมอเจ้าเล่ห์แน่นไม่ยอมปล่อย ในขณะที่อาจารย์แจ้งแยงใส่ เธอครางสะท้านเมื่อเขาทั้งดูดทังบี้ไปพร้อมกัน

อาจารย์แจ้งเสียวจนทนไม่ไหว เงี่ยนจนควยแทบระเบิดออกมา เขาอดใจไม่ไหวถึงกับก้มหน้าลงไปไซร้ที่ท้องน้อย แต่ยังไม่กล้าลงลิ้นเลียให้เธอได้แต่จูบวนแถวๆโคก แล้วเลื่อนไปจูบที่ สะโพก น่อง หน้าขา
“อูยย อาจารย์ ทำอะไรคะ”
อาจารย์แจ้งสะดุ้ง กลัวเธอจะรู้ทันเลยรีบถอนหน้าออก
“อย่าพูดกลางคันสิคุณ เดี๋ยวเสียพิธีหมด นึกถึงหน้าสามีแล้วอธิษฐานเข้าไว้” อาจารย์แกล้งทำเป็นดุ

จีรนันท์พยักหน้า อาจารย์แจ้งกลัวเธอจะไหวตัว จึงปล่อยให้เธอสูดดมควันธูปเสน่ห์ไปก่อน ตัวเขาหันไปทางมยุรีใหม่
“ผมจะทำพิธีขั้นต่อไป อันนี้สำคัญมาก ห้ามคุณพูดอะไรกลางคันนะ ให้อธิษฐานอย่างเดียว เข้าใจไม๊”
“เข้าใจค่ะ”
มยุรีรับคำเสียงสั่น

ไม่มีความคิดเห็น: